Can you pull the curtains? Let me see the sunshine
I think I’m done with my hidin’ place and you found me anyway
It’s been forever, but I’m feelin’ alright
Tears dry and will leave no trace and tomorrow’s another day
ช่วยเปิดผ้าม่านให้ฉันหน่อยได้ไหม ให้ฉันได้เห็นแสงสว่างที
ฉันคิดว่าฉันพอกับการซ่อนตัวแล้ว และเธอก็หาฉันเจออยู่ดี
มันก็ผ่านมานานแล้ว แต่ฉันก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้วล่ะ
น้ำตาเหือดแห้งไม่เหลือรอยคราบน้ำตา และพรุ่งนี้ก็เป็นวันใหม่แล้ว
Hide and seek, I am somewhere closed away
You won’t believe how long it’s been since I started the game
I can’t be seen and you won’t find me today
I’ve not been this low, but I’ll be okay
เล่นซ่อนหา ฉันหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
เธอจะต้องไม่เชื่อแน่ ว่ามันผ่านมานานแค่ไหนแล้ว ตั้งแต่ที่ฉันเริ่มเล่นเกมนี้
เธอมองไม่เห็นฉันหรอก และเธอก็หาฉันไม่เจอในวันนี้
ฉันไม่เคยเศร้าขนาดนี้มาก่อน แต่ฉันก็จะไม่เป็นไรหรอกนะ
“Are you alright?” Maybe don’t ask
‘Cause you know I never like to talk about that
Keep it inside, yeah, you say I always hold back
And I always wear long sleeves
Is it in your childhood? Somethin’ happen in your past?
Well, the sadness, yeah, I promise that it won’t last
And if I could, I would try to take it all back
There’s still more underneath and that’s when you say to me
เธอไม่เป็นไรใช่ไหม บางทีไม่ถามเลยดีกว่านะ
เพราะเธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบพูดถึงเรื่องนั้น
เก็บมันไว้ในใจ เธอพูดว่าฉันมักจะอดกลั้นมันเอาไว้
และฉันมักจะสวมเสื้อแขนยาว
มันเป็นเรื่องในวัยเด็กของเธอใช่ไหม บางอย่างเกิดขึ้นในอดีตของเธอ
อืม น่าเศร้าที่สุด ฉันสัญญาว่ามันจะไม่ตลอดไปหรอกนะ
และถ้าฉันทำได้นะ ฉันจะพยายามเอามันกลับคืนมาให้หมด
ยังมีอีกมากมายที่ซ่อนอยู่ และนั่นคือตอนที่เธอพูดกับฉัน
“Can you pull the curtains? Let me see the sunshine
I think I’m done with my hidin’ place and you found me anyway
It’s been forever, but I’m feelin’ alright
Tears dry and will leave no trace and tomorrow’s another day”
ช่วยเปิดผ้าม่านให้ฉันหน่อยได้ไหม ให้ฉันได้เห็นแสงสว่างที
ฉันคิดว่าฉันพอกับการซ่อนตัวแล้ว และเธอก็หาฉันเจออยู่ดี
มันก็ผ่านมานานแล้ว แต่ฉันก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้วล่ะ
น้ำตาเหือดแห้งไม่เหลือรอยคราบน้ำตา และพรุ่งนี้ก็เป็นวันใหม่แล้ว
Let me see the sunshine, shine, shine
Let me see the sunshine, shine, shine
Let me see the sunshine, shine, shine
Let me see the sunshine
ให้ฉันได้เห็นแสงสว่างที
Hide and seek, count to ten and close your eyes
Try to breathe, see a message and don’t reply
Nice to meet, but in reality, say goodbye
Life can be so beautiful if you try
เล่นซ่อนหา นับหนึ่งถึงสิบ และหลับตาลง
พยายามจะหายใจ เห็นข้อความและไม่ตอบกลับ
ดีใจที่ได้เจอนะ แต่จริงๆแล้ว กลับพูดบอกลา
ชีวิตมันจะสวยงามมากเลยนะ ถ้าเธอลองดู
“Are you okay?” Yeah, I guess so
But, on some days, I feel like I’m trapped in a hole
But I keep quiet, so the ones around me don’t know
That the mountain feels so steep
And I’ll say that I’m here to help to carry the load
And the outside rays, they are good for the soul
So, let’s step out of the dark ’cause, in here, it’s so cold
The day’s not out of reach and it’s when you say to me
เธอโอเคใช่มั้ย ใช่ ฉันคิดว่านะ
แต่ในบางวัน ฉันก็รู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
แต่ฉันเก็บเงียบเอาไว้ ดังนั้นคนรอบข้างไม่มีใครรู้
ว่าภูเขานั้นรู้สึกว่าสูงชันมาก
และฉันจะบอกว่าฉันมาที่นี่เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ
และแสงข้างนอก มันก็ดีต่อจิตวิญญาณ
ถ้างั้น เดินออกไปจากความมืดกันเถอะ เพราะอยู่ในนี้ มันหนาวเหลือเกิน
วันนั้นก็ไม่ไกลเกินเอื้อม และมันคือตอนที่เธอพูดกับฉัน
“Can you pull the curtains? Let me see the sunshine
I think I’m done with my hidin’ place and you found me anyway
It’s been forever but I’m feelin’ alright
Tears dry and will leave no trace and tomorrow’s another day”
ช่วยเปิดผ้าม่านให้ฉันหน่อยได้ไหม ให้ฉันได้เห็นแสงสว่างที
ฉันคิดว่าฉันพอกับการซ่อนตัวแล้ว และเธอก็หาฉันเจออยู่ดี
มันก็ผ่านมานานแล้ว แต่ฉันก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้วล่ะ
น้ำตาเหือดแห้งไม่เหลือรอยคราบน้ำตา และพรุ่งนี้ก็เป็นวันใหม่แล้ว
Let me see the sunshine, shine, shine
Let me see the sunshine, shine, shine
Let me see the sunshine, shine, shine
Let me see the sunshine
ให้ฉันได้เห็นแสงสว่างที